“สมโภชน์ อาหุนัย” เผยยุคดิจิทัลพัฒนาสินค้าเพิ่ม value added สร้างแบรนด์แกร่ง

0 Comments

“สมโภชน์ อาหุนัย” มองการบริหารยุคดิจิทัล เน้นพลังงานสะอาดเพื่อลดปัญหาโลกร้อน ทุกองค์กรต้องปรับตัว “พลังานบริสุทธิ์” เดินหน้าเป็น new generation company ให้คนได้ทำงานที่ท้าทายความสามารถและศักยภาพ พร้อมลุยพลังงานสีเขียว มุ่งผลิตทั้งเรือ รถที่เน้นการใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมัน รับเทรนด์ลดโลกร้อน

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยในงานสัมมนา “เศรษฐกิจไทยปี 2565 ความท้าทายและโอกาสใหม่” ว่าการดำเนินงานของบริษัทในยุคดิจิทัลต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกับเทรนด์ของโลก เน้นพลังงานสะอาด และการพัฒนาสินค้าด้วยการเพิ่ม value added สร้างแบรนด์เพื่อแข่งขันกับต่างชาติได้ รวมถึงการพัฒนาคนให้มีศักยภาพ เพื่อผลักดันให้จากเดิมค่าแรงต่ำจะได้เพิ่มสูงขึ้น ต้องเร่งพัฒนาเพราะไม่เช่นนั้นเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศจะไหลไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

โดยในส่วนของ EA จะเดินหน้าเป็น new generation company เน้นเรื่องการลดภาวะโลกร้อน ลดการกีดกันทางการค้า เน้นอินโนเวชันให้เกิดมูลค่าเพิ่มใหม่ๆ การมีทีมงานที่ดี และร่วมกันพัฒนา เพราะในยุคปัจจุบันต้องหาคนที่เข้ามาทำงานที่้ท้าทายความสามารถ อันจะทำให้เกิดการตื่นตัวและร่วมกันพัฒนาองค์กร ยกระดับคนไปทำงานที่มีความซับซ้อนและท้าทายความสามารถมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดความจำเจ และยุคใหม่ไม่ต้องเข้าทำงานที่ออฟฟิศทุกวัน แต่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ขณะงานในส่วนที่ไม่ต้องใช้ความชำนาญควรให้หุ่นยนต์ทำงานแทนคน เพราะจะผลักดันให้คนไม่รู้สึกจำเจ

ทั้งนี้ EA เริ่มจากการเป็นบริษัทที่ทำการพลังงานทางเลือก พลังงานสีเขียวจึงเป็นเป้าหมายหลัก เพราะจากเดิมการใช้น้ำมันจะหันไปใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ดังนั้น ต้องช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งปัจจุบันการใช้ไบโอดีเซลจะน้อยลง เพราะอนาคตในไม่ช้าเครื่องบินที่บินไปประเทศต่างๆ จะมีการวัดค่าคาร์บอน หากเกินมาตรฐานต้องจ่ายภาษี และ EA มุ่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมัน ทั้งเรือ รถ ที่เน้นการใช้ไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมัน

สำหรับรถพลังงานไฟฟ้าที่ผู้บริโภคกังวลเรื่อง ระยะการขับ ขนาดความจุของแบตเตอรี่ สถานีชาร์จระหว่างทางกรณีขับเคลื่อนทางไกล การวางแผนการเดินทาง และการใช้งานของแบตเตอรี่ รวมถึงปัญหาของแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งานจะเกิดปัญหาต่อโลกนั้น

“มองว่าปกติการเดินทางคนขับรถจะใช้เวลาหยุดพักตามระยะทาง โดยเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมง ดังนั้น สถานีบริการควรมีไว้เป็นระยะเพื่อความสะดวกแก่ผู้ที่ขับรถทางไกล ระยะเหมาะสมคือ 50 กม.ต่อ 1 ปั๊ม เพราะแบตเตอรี่ควรใช้ประมาณนี้ เพราะหากต้องการความจุมากต้องใช้ก้อนใหญ่และจะน้ำหนักมาก ซึ่งปัจจุบันการชาร์จไฟและขับไปเพียง 200 กม. นั้นเพียงพอ และเชื่อว่าสถานีชาร์จไฟประมาณ 2 พันจุดน่าจะเพียงพอ”

สำหรับปัญหาของแบตเตอรี่เก่านั้น มองว่าผู้ที่ขายควรรับผิดชอบในส่วนของแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งาน ด้วยการให้คนใช้นำไปคืนให้ผู้ขาย หรือเมื่อเปลี่ยนแบตใหม่ต้องนำแบตเก่ามาคืนด้วย

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket