ดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 23 มีนาคม 2565
ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/3) ที่ระดับ 33.47/51 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (22/3) ที่ระดับ 33.50/54 บาท โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และหันเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงเช่นยูโรและปอนด์ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าหลังจาก นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ ว่าเฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ
ซึ่งทางด้านโกลด์แมน แซกซ์ คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน หลังจากที่นายพาวเวลล์ส่งสัญญาณดังกล่าว
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าในช่วงเช้า เนื่องจากทางกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงการคลัง และสำนักงานเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือประชาชนบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันในเมื่อวานนี้ (22/3) ซึ่งเป็นการออกมาตรการเร่งด่วนช่วยหลือประชาชนบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย
โดยออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากนโยบายต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ออกไปแล้วและยังดำเนินการอยู่ มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีประชาชนที่จะได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน ใช้วงเงินไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการแถลงรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือในวันพรุ่งนี้ (24/3)
นอกจากนี้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงบ่าย จากแรงซื้อกลับสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงปิดไตรมาสแรก โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวปรับตัวอ่อนค่าตามสกุลอื่น ๆ ในภูมิภาค นอกจากนี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 33.46-33.68 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.60/64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (23/3) ที่ระดับ 1.1027/29 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (22/3) ที่ระดับ 1.0994/96 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงปรับตัวรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.50% ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1015-1.1038 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1015/18 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (23/3) ที่ระดับ 121.08/10 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (22/3) ที่ระดับ 120.45/48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินเยนยังคงปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องจากความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่างเฟดและธนาคารกลางญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยรัฐสภาญี่ปุ่นได้อนุมัติงบประมาณแผ่นดินสำหรับปีงบประมาณ 2565 เป็นวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 120.94-121.15 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 120.92/95 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
สัปดาห์นี้ นักลงทุนติดตามยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ เดือน ก.พ. (23/3), ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐ ก.พ. (24/3)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -0.1/+0.15 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +1.5/+3.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance